สัญกรณ์วิทยาศาสตร์ (Scientific Notation)
เป็นวิธีเขียนตัวเลขจำนวนมากหรือน้อยมากให้อยู่ในรูปแบบที่กะทัดรัดและสะดวกขึ้น คือ รูปแบบ 𝐴×10*𝑛
โดยที่
𝐴 เป็นจำนวนตั้งแต่ 1 ถึงน้อยกว่า 10 (1≤A<10)
และ 𝑛 เป็นจำนวนเต็ม (เลขชี้กำลัง) สัญกรณ์นี้ช่วยให้การเขียน การอ่าน และการเปรียบเทียบจำนวนที่มีขนาดสุดขั้ว เช่น จำนวนดาวในกาแล็กซี หรือขนาดของอนุภาคเล็กๆ ทำได้ง่ายขึ้น.
โครงสร้างของสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
- สัมประสิทธิ์ (A): เป็นตัวเลขทศนิยมที่มีค่าระหว่าง 1 ถึงน้อยกว่า 10.
- เลขชี้กำลัง (n): เป็นจำนวนเต็มที่เป็นเลขยกกำลังของ 10.
- เลขชี้กำลังบวก (+) ใช้สำหรับจำนวนที่มีค่ามาก.
- เลขชี้กำลังลบ (-) ใช้สำหรับจำนวนที่มีค่าน้อยมาก.
วิธีการเขียน
- หาค่า A: เลื่อนจุดทศนิยมในจำนวนเดิมไปทางซ้าย (ถ้าเลขเยอะ) หรือไปทางขวา (ถ้าเลขน้อย) เพื่อให้ได้จำนวนที่อยู่ระหว่าง 1 ถึง 10.
- หาค่า n: นับจำนวนตำแหน่งที่เลื่อนจุดทศนิยมมาได้ ซึ่งจำนวนนี้คือเลขชี้กำลัง.
- เขียนในรูปสัญกรณ์: เขียนจำนวนนั้นในรูป 𝐴×10*𝑛
.
ตัวอย่าง
- จำนวนมาก: 63,000 เขียนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์คือ 6.3×10*4
(เลื่อนจุด 4 ตำแหน่งไปทางซ้าย). - จำนวนน้อย: 0.00005842 เขียนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์คือ 5.842×10*−5
(เลื่อนจุด 5 ตำแหน่งไปทางขวา).
ประโยชน์ของการใช้สัญกรณ์วิทยาศาสตร์
- ความสะดวก: ช่วยให้เขียนตัวเลขที่มีหลายหลักหรือหลายศูนย์ได้สั้นลง.
- ความชัดเจน: ทำให้เข้าใจขนาดของจำนวนได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม.
- การเปรียบเทียบ: ช่วยเปรียบเทียบจำนวนที่มีค่ามากหรือน้อยมากๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ