เนื้อหาของคอร์ส
พื้นฐานและหลักการของ Food Plating
Food Plating คือ ศิลปะการจัดวางอาหารบนจานให้สวยงามน่ารับประทาน โดยใช้หลักการทางศิลปะเข้ามาช่วยเพื่อให้ "ตาได้กินก่อนปาก" จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความสำคัญของ Food Plating ต่อประสบการณ์การรับประทาน 2. แยกแยะองค์ประกอบหลักในการจัดจาน 3. ประยุกต์ใช้หลักการสี รูปทรง และพื้นที่ว่างในการวางแผนการจัดจาน 4. เลือกใช้ภาชนะได้อย่างเหมาะสมกับประเภทอาหาร
0/4
2 เทคนิคการจัดวางและการสร้างมิติ
เทคนิคการจัดวาง (Composition) การจัดวางคือวิธีการจัดองค์ประกอบภาพหรือวัตถุต่าง ๆ ให้อยู่ในกรอบอย่างมีศิลปะและสมดุล เพื่อให้เกิดความน่าสนใจและสื่อสารข้อความได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคนิคการสร้างมิติ (Dimension / Depth) การสร้างมิติคือการทำให้ภาพ 2 มิติ (เช่น ภาพถ่าย) ดูเหมือนมีระยะทางและความลึก เสมือนจริง หรือ "เป็น 3 มิติ" จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. จัดวางองค์ประกอบหลักของอาหารตามรูปแบบพื้นฐานได้อย่างถูกต้อง 2. สาธิตเทคนิคการสร้างมิติและความสูงให้กับจานอาหาร 3. กำหนดจุดเด่นและนำสายตาผู้ชมด้วยการจัดวาง 4. ใช้ซอสและของเหลวเพื่อตกแต่งจานอย่างสวยงามและเป็นระเบียบ
0/4
3 การตกแต่งด้วยเครื่องเคียงและ Garnish
3.1 บทบาทของเครื่องเคียง 3.2 เทคนิคการทำ Garnish 3.3 การจัดจานตามประเภทอาหาร
4 การประยุกต์ใช้และการนำเสนออย่างมืออาชีพ
4.1 Food Plating กับการสร้างแบรนด์ 4.2 การถ่ายภาพอาหาร 4.3 โครงการปฏิบัติ: จัดจานสร้างสรรค์
ศิลปะการจัดตกแต่งจาน

แน่นอนค่ะ! การสร้างจุดเด่นและโฟกัสในการจัดจานอาหารเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้อาหารดูน่ารับประทานและน่าสนใจยิ่งขึ้น นี่คือเนื้อหาพร้อมรูปภาพประกอบสำหรับการทำสื่อการสอนของคุณค่ะ


 

สื่อการสอน: การสร้างจุดเด่นและโฟกัสในการจัดจานอาหาร

 

บทนำ:

การจัดจานอาหารไม่ใช่แค่การวางอาหารลงบนจาน แต่เป็นการสร้างสรรค์งานศิลปะที่กระตุ้นความอยากอาหารและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้รับประทาน การสร้าง “จุดเด่น” (Focal Point) และการ “โฟกัส” (Focus) จะช่วยนำสายตาผู้รับประทานไปยังส่วนที่สำคัญที่สุดของจาน ทำให้จานอาหารดูน่าสนใจและมีมิติมากขึ้น

ทำไมต้องมีจุดเด่นและโฟกัส?

  • ดึงดูดสายตา: ทำให้จานอาหารดูไม่น่าเบื่อและมีชีวิตชีวา

  • สร้างความน่าสนใจ: กระตุ้นความอยากอาหารและสร้างความประทับใจแรก

  • สื่อสารเรื่องราว: ช่วยเน้นส่วนประกอบหลักของอาหาร หรือเทคนิคการปรุงที่โดดเด่น

  • สร้างสมดุล: ช่วยให้การจัดจานดูสมดุลและลงตัว


เทคนิคการสร้างจุดเด่นและโฟกัส:

1. การใช้สี (Color)

สีเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ดึงดูดสายตาได้ทันที การเลือกใช้สีที่ตัดกันหรือสีที่สดใส จะช่วยสร้างจุดเด่นได้เป็นอย่างดี

  • เทคนิค:

    • ใช้ส่วนประกอบที่มีสีสดใส เช่น พริกหยวกสีแดง, ใบโหระพาสีเขียวเข้ม, ซอสมะเขือเทศเข้มข้น

    • สร้างความเปรียบต่างของสี เช่น อาหารสีอ่อนวางบนจานสีเข้ม หรืออาหารสีเข้มวางบนจานสีอ่อน

  • ตัวอย่าง: สเต๊กเนื้อสีน้ำตาลเข้มกับซอสเบอร์รี่สีแดงสด และผักโรยสีเขียวสดใส

2. การใช้รูปร่างและขนาด (Shape and Size)

รูปร่างและขนาดที่แตกต่างกันสามารถสร้างความน่าสนใจและกำหนดจุดเด่นได้ การใช้รูปร่างที่แปลกตา หรือขนาดที่ใหญ่กว่าส่วนอื่น ๆ จะดึงดูดสายตาได้ดี

  • เทคนิค:

    • หั่นส่วนประกอบให้มีรูปร่างที่น่าสนใจ เช่น ผักหั่นแฉลบ, ผลไม้แกะสลัก, หรือใช้พิมพ์กดอาหาร

    • วางส่วนประกอบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดไว้ตรงกลาง หรือส่วนที่ต้องการให้เป็นจุดเด่น

  • ตัวอย่าง: แซลมอนชิ้นใหญ่ย่างวางเป็นจุดเด่น ล้อมรอบด้วยหน่อไม้ฝรั่งเรียวเล็กและซอสที่หยดเป็นจุดๆ

3. การใช้ความสูง (Height)

การเพิ่มความสูงให้กับจานอาหารจะช่วยเพิ่มมิติและความน่าสนใจ ทำให้จานดูไม่แบนราบ

  • เทคนิค:

    • ซ้อนอาหารเป็นชั้นๆ เช่น ซ้อนเนื้อสัตว์กับผัก หรือใช้แหวนจัดจาน (plating ring)

    • ใช้ส่วนประกอบที่ตั้งตรงได้ เช่น หน่อไม้ฝรั่ง, แครอทหั่นแท่ง, หรือใช้การพิงส่วนประกอบเข้าหากัน

  • ตัวอย่าง: พาสต้าที่ม้วนเป็นเกลียวสูงขึ้นไป หรือเค้กที่ตกแต่งเป็นชั้นๆ

4. การใช้พื้นผิวและสัมผัส (Texture)

พื้นผิวที่แตกต่างกันช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับจานอาหารได้ การผสมผสานพื้นผิวที่หลากหลายจะทำให้จานดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

  • เทคนิค:

    • ใช้ส่วนประกอบที่มีพื้นผิวต่างกัน เช่น ความกรอบของเทมปุระ, ความนุ่มของปลา, ความมันวาวของซอส

    • เพิ่มของตกแต่งที่มีพื้นผิวพิเศษ เช่น ถั่วบดหยาบ, ขนมปังกรอบ, หรือเปลือกเลมอนขูด

  • ตัวอย่าง: ปลากรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมซอสเนื้อเนียนละเอียด และถั่วพิสตาชิโอสับหยาบ

5. การใช้พื้นที่ว่าง (Negative Space)

พื้นที่ว่างบนจานเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การจัดจานโดยมีพื้นที่ว่างที่เหมาะสมจะช่วยเน้นจุดเด่นของอาหารได้ดียิ่งขึ้น และทำให้จานดูไม่รก

  • เทคนิค:

    • อย่าใส่อาหารจนเต็มจาน เว้นพื้นที่ว่างรอบๆ อาหาร

    • ใช้พื้นที่ว่างเพื่อนำสายตาไปยังจุดเด่น

  • ตัวอย่าง: อาหารชิ้นเล็กๆ จัดวางอย่างสวยงามบนจานใบใหญ่ที่มีพื้นที่ว่างสีขาวจำนวนมาก

6. การใช้ซอสและการตกแต่ง (Sauces and Garnishes)

ซอสและของตกแต่งเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการสร้างจุดเด่นและเพิ่มความสวยงาม

  • เทคนิค:

    • หยดซอสเป็นจุดๆ ลากเป็นเส้น หรือใช้ขวดบีบซอสเพื่อสร้างลวดลาย

    • ใช้สมุนไพรสด, ดอกไม้กินได้, หรือผักใบเล็กๆ มาประดับตกแต่ง

  • ตัวอย่าง: เนื้อย่างราดด้วยซอสบัลซามิกที่หยดเป็นศิลปะ และตกแต่งด้วยโรสแมรี่สด


สรุป:

การสร้างจุดเด่นและโฟกัสในการจัดจานอาหารเป็นศิลปะที่ต้องอาศัยการฝึกฝนและความคิดสร้างสรรค์ การผสมผสานเทคนิคต่างๆ เช่น การใช้สี, รูปร่าง, ความสูง, พื้นผิว, พื้นที่ว่าง, และการตกแต่ง จะช่วยยกระดับการนำเสนออาหารของคุณให้ดูน่ารับประทานและสร้างความประทับใจให้กับผู้รับประทานได้มากยิ่งขึ้น อย่ากลัวที่จะทดลองและสนุกไปกับการจัดจานของคุณ!


สำหรับคลิปวิดีโอประกอบการสอน:

คุณสามารถถ่ายทำคลิปสั้นๆ สาธิตแต่ละเทคนิคได้ค่ะ เช่น:

  • คลิป 1: การใช้สี: โชว์การวางส่วนผสมสีสดใส (เช่น มะเขือเทศเชอร์รี่, ผักชีฝรั่ง) บนจานอาหารสีพื้น

  • คลิป 2: การใช้ความสูง: สาธิตการซ้อนอาหาร เช่น ข้าวผัดที่จัดใส่พิมพ์ หรือการพิงผักเข้ากับเนื้อ

  • คลิป 3: การใช้ซอส: แสดงวิธีการหยดซอสเป็นจุดๆ หรือการลากซอสเป็นเส้นเพื่อสร้างลวดลาย

  • คลิป 4: การจัดจานรวม: สาธิตการจัดจานอาหารจานเดียวโดยใช้เทคนิคต่างๆ ที่ได้เรียนรู้มา

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับคลิป:

  • ใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด

  • ถ่ายทำจากมุมสูง (overhead shot) และมุมระดับสายตา (eye-level shot) เพื่อแสดงผลลัพธ์

  • อาจจะมีการบรรยายสั้นๆ อธิบายเทคนิคแต่ละขั้น


หวังว่าเนื้อหาและรูปภาพเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการทำสื่อการสอนของคุณนะคะ! หากต้องการให้ปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมส่วนใด สามารถบอกได้เลยค่ะ